TGAT – TPAT สอบอะไร ไขข้อสงสัยให้ #dek67
สวัสดีครับน้องๆ ม.4, ม.5 และม.6 ทุกคน ตอนนี้ก็เข้าสู่เทศกาลของการสอบของ TCAS67 กันแล้ว แต่น้องรู้แล้วหรือยังว่าตัวเองต้องสอบอะไรบ้าง? ถ้าหากไม่รู้ แล้วน้องๆ เคยได้ยินคำว่า TGAT, TPAT และ A-Level บ้างรึเปล่า.. หลายๆ คนก็คงจะรู้จักกันมาบ้างแล้ว แต่บางคนก็คงยังจะงงอยู่แน่ๆ สำหรับ 3 คำที่พี่ได้ยกมาถามน้องๆ นั้นเป็นชื่อข้อสอบที่น้องต้องเจอในระบบ TCAS นั่นเอง ซึ่งทุกตัวเลยทั้ง TGAT, TPAT และ A-Level ล้วนเป็นคะแนนที่เอาไว้ใช้ยื่นสอบเข้ามหาวิทยาลัยผ่านระบบ TCAS ดังนั้นพี่ณัฐเลยจะมาไขข้อสงสัยกับเจ้า TGAT – TPAT กันก่อนว่ามันคืออะไร
มีโครงสร้างอย่างไร และใช้กับคณะอะไรได้บ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็ตามกันไปดูกันเลย
TGAT คืออะไร ใช้ทำอะไร
TGAT หรือในชื่อเต็ม Thai General Aptitude Test คือการสอบเพื่อวัดสมรรถนะทั่วไปของน้องๆ ซึ่งในข้อสอบจะแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท ดังนี้ TGAT1 การสื่อสารภาษาอังกฤษ, TGAT2 การคิดอย่างมีเหตุผล และTGAT3 สมรรถนะการทำงาน โดยจะมีคะแนนทั้ง 3 พาร์ท รวม 300 คะแนนและใช้เวลาในการสอบเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น (ซึ่งข้อสอบแจกพร้อมกันเลย บริหารเวลากันเองนะ)
"สำหรับ TGAT เป็นวิชาพิเศษที่แม้ว่าน้อง
จะต้องสอบครบทั้งหมด 3 พาร์ท
แต่มหาวิทยาลัยสามารถกำหนดได้
ว่าจะใช้คะแนนรวมทั้งหมด
หรือแยกเป็น TGAT1/TGAT2/TGAT3
ดังนั้นน้องต้องเช็กเกณฑ์ให้ดี"
ข้อสอบ TGAT ไม่ใช่ GAT อย่าสับสน
“จะหาข้อสอบเก่ามาลองฝึก TGAT แล้วสามารถใช้ GAT มาฝึกได้ไหม?” อีกหนึ่งคำถามที่พี่ณัฐและพี่แม็ก เห็นบ่อยๆ ทั้งจากที่ส่งมาถามทาง Line official : @mathbynutty และตามช่องทางอื่นๆ ซึ่งพี่อยากจะบอกว่า “ใช้ฝึกแทนกันไม่ได้เลยครับ น้องๆ อาจจะต้องทำความเข้าใจใหม่ก่อนว่า GAT ในข้อสอบสมัยก่อน (ตั้งแต่ปี 64 ย้อนขึ้นไป) นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 พาร์ท คือพาร์ทภาษาไทยที่เป็น GAT เชื่อมโยง โดยจะให้บทความมา 2 บทความ และคำที่ไฮไลท์ ซึ่งจะต้องเชื่อมโยงเนื้อหาให้ได้ และพาร์ท GAT ภาษาอังกฤษ โดยจะมีเวลาสอบ 3 ชั่วโมงแต่จะแบ่งการแจกข้อสอบเป็น 2 รอบ ตามวิชา เท่ากับว่าน้องจะได้ทำข้อสอบวิชาละ 1 ชั่วโมง 30 นาที ส่วนข้อสอบ TGAT นั้นจะมีทั้งหมด 3 พาร์ท ซึ่งเป็นข้อสอบแบบฝนคำตอบทั้งหมด 200 ข้อ มีเวลาให้ทำ 3 ชั่วโมง เฉลี่ยข้อละไม่ถึง 1 นาที โดยจะแจกข้อสอบทุกพาร์ทพร้อมกันทำให้น้องต้องบริหารเวลาในห้องสอบกันเอง
โครงสร้างข้อสอบ TGAT
3.1 TGAT1 การสื่อสารภาษาอังกฤษ
เป็นข้อสอบประเภทปรนัย มี 4 ตัวเลือก ระยะเวลาที่ใช้ในการสอบ 60 นาที ซึ่ง TGAT1 จะแบ่งออกเป็น 2 พาร์ท ดังนี้
1. พาร์ททักษะการพูด (Speaking Skill) จำนวน 30 ข้อ (50 คะแนน)
• การถาม – ตอบ (Question Response) จำนวน 10 ข้อ
ตัวอย่างข้อสอบ
• เติมบทสนทนาแบบสั้น (Short Conversation) จำนวน 10 ข้อ
• เติมบทสนทนาแบบยาว (Long Conversation) จำนวน 10 ข้อ
ตัวอย่างข้อสอบ
2. พาร์ททักษะการอ่าน (Reading Skill) จำนวน 30 ข้อ (50 คะแนน)
• เติมข้อความในเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ (Text Completion) จำนวน 2 บทความ มีทั้งหมด 15 ข้อ
ตัวอย่างข้อสอบ
• อ่านเพื่อจับใจความ (Reading Comprehension) จำนวน 3 บทความ มีทั้งหมด 15 ข้อ
ตัวอย่างข้อสอบ
3.2 TGAT2 การคิดอย่างมีเหตุผล (Critical & Logical Thinking)
เป็นข้อสอบประเภทปรนัย จำนวน 5 ตัวเลือก มีทั้งหมด 80 ข้อ แบ่งออกเป็น 4 พาร์ท ซึ่งจะใช้เวลาในการสอบ 60 นาที
1. ความสามารถทางภาษา มีทั้งหมด 20 ข้อ จะวัดทั้งหมด 4 ด้าน
• การสื่อความหมาย
• การใช้ภาษา
• การอ่าน
• การเข้าใจภาษา
ตัวอย่างข้อสอบ
2. ความสามารถทางตัวเลข มีทั้งหมด 20 ข้อ จะวัดทั้งหมด 4 ด้าน
• อนุกรมมิติ
• การเปรียบเทียบเชิงปริมาณ
• ความเพียงพอของข้อมูล
• โจทย์ปัญหา
ตัวอย่างข้อสอบ
3. ความสามารถทางมิติสัมพันธ์ มีทั้งหมด 20 ข้อ จะวัดทั้งหมด 4 ด้าน
• แบบพับกล่อง
• แบบหาภาพต่าง
• แบบหมุนภาพสามมิติ
• แบบประกอบภาพ
ตัวอย่างข้อสอบ
4. ความสามารถทางเหตุผล มีทั้งหมด 20 ข้อ จะวัดทั้งหมด 4 ด้าน
• อนุกรมภาพ
• อุปมา - อุปไมยภาพ
• สรุปความ
• วิเคราะห์ข้อความ
ตัวอย่างข้อสอบ
3.3 TGAT3 สมรรถนะการทำงาน
สำหรับ TGAT3 สมรรถนะในการทำงาน จะเป็นข้อสอบประเภทปรนัย มี 4 ตัวเลือก แต่สิ่งที่ควรระวังเลยคือในข้อสอบ TGAT3 แต่ละพาร์ททุกคำตอบจะมีคะแนน อยู่ในช่วงระหว่าง 0-1 คะแนน โดยรูปแบบการตอบคำถามนั้นจะมี 2 แบบ คือ การให้เลือกตอบเพียงคำตอบเดียว และ การเลือกคำตอบหลายตัวเลือก ซึ่ง TGAT3 จะมีข้อสอบจำนวน 60 ข้อ คะแนนเต็ม 100 คะแนน แบ่งออกเป็น 4 พาร์ท ดังนี้
1.การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม จำนวน 15 ข้อ
"เลือกตอบตัวเลือกเดียว คะแนนจะลดตาม
ความถูกต้องตั้งแต่ 0.25-1 คะแนน"
ตัวอย่างข้อสอบ
2.การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน จำนวน 15 ข้อ
ข้อสอบในพาร์ทนี้จะแบบจำลองเหตุการณ์ ซึ่งการตอบคำถามจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
แบบที่ 1 ข้อสอบ 1 ข้อจะมีหลายคำตอบ ซึ่งต้องฝนคำตอบให้ครบทุกข้อที่ถูกต้องจึงจะได้ 1 คะแนนเต็ม
ตัวอย่างการให้คะแนน
แบบที่ 2 ข้อสอบ 1 ข้อ จะตอบได้แค่คำตอบเดียวเท่านั้น! แต่คะแนนจะลดหลั่นตามความถูกต้อง โดยตัวเลือกในแต่ละข้อจะมีคะแนนตั้งแต่ 0.25 – 1 คะแนน
ตัวอย่างข้อสอบ
3.การบริหารจัดการอารมณ์ จำนวน 15 ข้อ
"เลือกตอบตัวเลือกเดียว คะแนนจะลดตาม
ความถูกต้องตั้งแต่ 0-1 คะแนน"
ตัวอย่างข้อสอบ
4.การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม จำนวน 15 ข้อ
"เลือกตอบตัวเลือกเดียว คะแนนจะลดตาม
ความถูกต้องตั้งแต่ 0-1 คะแนน"
ตัวอย่างข้อสอบ
TPAT คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง
TPAT หรือชื่อเต็ม Thai Professional Aptitude Test จะเป็นข้อสอบที่วัดความถนัดทางด้านวิชาชีพ ซึ่งเป็นข้อสอบที่มีการปรับเปลี่ยนมาจากข้อสอบเก่าอย่าง PAT โดยปัจจุบัน TPAT จะมีวิชาให้เลือกสอบเพียงแค่ 5 กลุ่มความถนัดเท่านั้นและแต่ละวิชาจะมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน ซึ่ง TPAT 5 กลุ่มความถนัดนั้น ได้แก่
4.1 TPAT1 ความถนัดทางด้านวิชาชีพแพทย์ (กสพท)
เป็นข้อสอบที่จัดสอบโดยองค์กร กสพท ซึ่งคะแนนจะเอาไว้ยื่นคณะวิทย์สายสุขภาพ 4 คณะนี้เท่านั้น ได้แก่ แพทยศาสตร์, ทันตแพทยศาสตร์, เภสัชศาสตร์ และสัตวแพทยศาสตร์
รายละเอียดข้อสอบ TPAT1
รูปแบบการสอบ
สอบได้แค่รูปแบบกระดาษเท่านั้น!!
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน TPAT1
• คณะแพทยศาสตร์
• คณะทันตแพทยศาสตร์
• คณะเภสัชศาสตร์
• คณะสัตวแพทยศาสตร์
4.2 TPAT2 ความถนัดทางด้านศิลปกรรมศาสตร์
เป็นข้อสอบที่วัดความถนัดของน้องๆ ที่จะเข้าคณะสายศิลปกรรมศาสตร์หรือที่เกี่ยวกับ ทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ โดยข้อสอบ TPAT2 จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ TPAT21 ทัศนศิลป์ TPAT22 ดนตรี และ TPAT23 นาฏศิลป์ ซึ่งในห้องสอบน้องจะได้ข้อสอบ TPAT2 มาพร้อมกันทุกส่วน น้องๆ สามารถเลือกทำข้อสอบครบหรือไม่ครบทุกพาร์ทก็ได้ เพราะแต่ละคณะ – มหาวิทยาลัยสามารถดึงคะแนนเฉพาะส่วนไปใช้ได้ เช่น คณะมนุษยศาสตร์ สาขาดนตรีไทย ม.เกษตร (ใช้แค่ TPAT22 ดนตรี อย่างเดียว) แต่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาทัศนศิลป์ ม.นเรศวร (ใช้คะแนน TPAT2 ครบทุกพาร์ทลย) ดังนั้นถ้าหากน้องจะสอบคณะเหล่านี้ต้องเช็กเกณฑ์ให้ดีและต้องตั้งใจทำข้อสอบให้ครบทุกพาร์ทด้วย
รายละเอียดข้อสอบ TPAT2
รูปแบบการสอบ
สามารถเลือกวิชาที่สอบได้ รวมถึงสามารถเลือกได้ว่าจะสอบแบบคอมหรือสอบแบบกระดาษ
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน TPAT2
• คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
(เช่น มหาวิทยาลัยนเรศวร)
• คณะศิลปกรรมศาสตร์
(เช่น มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ, มหาวิทยาลัยบูรพา)
• คณะดนตรีและการแสดง
(เช่น มหาวิทยาลัยบูรพา)
• คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาดนตรีไทย
(มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)
• คณะศึกษาศาสตร์ สาขาศิลปศึกษา
(มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)
4.3 TPAT3 ความถนัดทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์
รายละเอียดข้อสอบ TPAT3
รูปแบบการสอบ
สามารถเลือกได้ว่าจะสอบแบบคอมหรือสอบแบบกระดาษ
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน TPAT3
• คณะวิศวกรรมศาสตร์
• คณะวิทยาศาสตร์
• คณะสายวิทย์สุขภาพ เช่น คณะเทคนิคการแพทย์ คณะสหเวชศาสตร์
• คณะสัตวแพทย์(บางมหาวิทยาลัย)
• คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
• คณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์ ที่มีเอกเป็นสายวิทย์ เช่นฟิสิกส์ เคมี ชีวะ และวิทย์ทั่วไป
4.4 TPAT4 ความถนัดทางด้านสถาปัตยกรรม
รายละเอียดข้อสอบ TPAT4รูปแบบการสอบ
สามารถเลือกได้ว่าจะสอบแบบคอมหรือสอบแบบกระดาษ
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน TPAT4
• คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
4.5 TPAT5 ความถนัดทางด้านครุศาสตร์ - ศึกษาศาสตร์
รายละเอียดข้อสอบ TPAT5
รูปแบบการสอบ
สามารถเลือกได้ว่าจะสอบแบบคอมหรือสอบแบบกระดาษ
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน TPAT5
• คณะศึกษาศาสตร์
• คณะครุศาสตร์
อย่างที่บอกน้องๆ ไปแล้วว่า ข้อสอบ TPAT นั้นเป็นข้อสอบที่วัดความถนัดทางด้านวิชาชีพ ดังนั้นน้องก็จะสามารถที่จะเลือกสมัครสอบได้ตามคณะที่น้องๆ อยากเข้าได้ หรือจะสอบเก็บคะแนนเผื่อไว้ทุกวิชาเพื่อที่จะยื่นในลำดับอื่นๆ ตอน Admission ก็ได้น้า
ตัวอย่างการใช้น้ำหนัก TGAT – TPAT (เกณฑ์ ปีการศึกษา 2566)
ปฏิทินการสอบ TGAT – TPAT ปี67
ใครสามารถสมัครสอบ TGAT – TPAT ได้บ้าง
1. นักเรียนที่เรียนอยู่ชั้น ม.6 ปีการศึกษาปัจจุบัน
2. นักเรียนที่เรียนจบชั้น ม.6 ปีการศึกษาก่อนหน้า (เด็กซิ่ว)
3. นักศึกษาหลักสูตร ปวช. (ใบประกอบวิชาชีพ)
4. นักศึกษาหลักสูตร ปวส. (ใบประกอบวิชาชีพขั้นสูง)
5. นักศึกษาหลักสูตร กศน. (การศึกษานอกโรงเรียน)
6. นักศึกษาหลักสูตร GED (เรียนที่บ้านและสอบเทียบ)
สิ่งสำคัญมากๆเลย คือคะแนน TGAT-TPAT มีอายุเพียง 1 ปีเท่านั้น แสดงว่าถ้าน้องเคยสอบในปีก่อนหน้า และต้องการจะยื่นเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ น้องจะต้องสอบใหม่เพราะไม่สามารถใช้คะแนนเก่าในการยื่นได้ (พูดง่ายๆ สอบปีไหน ยื่นปีนั้น) ซึ่งไม่เหมือนระบบ GAT-PAT ที่คะแนนมีอายุถึง 2 ปีนั่นเอง
สถิติ TGAT – TPAT
สถิติพื้นฐาน TGAT และ TPAT (2566)
ตารางคะแนน TGAT และ TPAT (2566)
สรุป
• TGAT-TPAT นั้นเป็นวิชาสำคัญที่น้องต้องสอบ เพราะว่าเกือบทุกคณะที่รับนักศึกษาผ่านระบบ TCAS จะต้องใช้คะแนนตัวใดตัวหนึ่งเป็นเกณฑ์ในการรับนักศึกษา (โดยเฉพาะ TGAT ใช้เกือบทุกคณะในประเทศไทย)
• วิชา TGAT จะแยกออกเป็น 3 พาร์ท ได้แก่ TGAT1 ภาษาอังกฤษ – TGAT2 การคิดอย่างมีเหตุผล และ TGAT3 สมรรถนะการทำงาน โดยทางมหาวิทยาลัยสามารถเลือกใช้คะแนนที่เป็นเกณฑ์ได้ อย่างเช่น ใช้ TGAT1 ภาษาอังกฤษ ร่วมกับข้อสอบ A-Level วิชาอื่น
• อายุของข้อสอบ TGAT – TPAT จะมีอายุเพียง 1 ปีเท่านั้น น้องๆ คนไหนที่ต้องการซิ่วจะต้องใช้สมัครสอบเพื่อใช้คะแนนใหม่
• แต่ละมหาวิทยาลัยจะมีเกณฑ์ของคณะที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนจะเริ่มเตรียมตัว ต้องศึกษาเกณฑ์ของคณะและมหาวิทยาลัยเป้าหมายของเราก่อน จะได้เตรียมตัวถูกว่าต้องเตรียมตัวสำหรับสอบวิชาอะไรบ้าง